|
![]() | |
รหัสสินค้า | : s6-0428 |
ชื่อสินค้า | : เหรียญทองคำ สมเด็จเชียงแสน อนุสรณ์ 108 ปี (ปี 2543) วัดด่าน |
รายละเอียด | เหรียญทองคำ สมเด็จเชียงแสน อนุสรณ์ 108 ปี (ปี 2543) วัดด่าน ระนอง หนัก 18.16 กรัม วัดอุปนันทาราม วัดอุปนันทาราม เป็นวัดราษฎร์ อยู่ในเขตเทศบาลเมืองระนอง เลขที่ ๑๔๔ ถนนท่าเมือง ตำบลเขานิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สภาพฐานะและที่ตั้งวัดอาณาเขต
สภาพแวดล้อม ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองระนองห่างจากสำนักงานเทศบาลประมาณ ๘๕๐ เมตร อยู่ท่ามกลางชุมชนขนาดใหญ่บริเวณวัดมีกำแพงล้อมรอบทุกด้าน ภายในวัดแบ่งเป็นเขตพุทธาวาส สังฆาวาส และเขตสาธารณสงเคราะห์ โดยเขตพุทธาวาสตั้งอยู่บนเนินเขาใจกลางวัด ล้อมด้วยเขตสังฆาวาสเป็นรูปตัวยูU บริเวณที่ราบด้านล่างเป็นเขตสาธารณสงเคราะห์ พื้นที่ทั้งสองส่วนมีถนนลาดยางและบันไดสำหรับเดินเท้าเชื่อมต่อถึงกันโดยรอบ ประวัติ"วัดอุปนันทาราม" เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งในระนองที่มีอายุการก่อสร้างวัดตั้งแ ต่ พ.ศ. ๒๔๓๖ ปลายสมัยรัชกาลที่ ๕ ถือได้ว่าเป็นวัดแรกๆของเมืองระนองในสมัยนั้นโดยมีนายบ่าเซ่ง เศรษฐีไทยเชื่อสายพม่าได้ชักชวนพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย ชาวจีน และชาวพม่า ร่วมกันก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธ เพราะในสมัยนั้นการทำบุญซักครั้งหนึ่งทำได้ยากยิ่ง เพราะว่าเมืองระนองมีเพียงวัดสุวรรณคีรีอารามหรือวัดหน้าเมือง (ภายหลังได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อ ครั้งเสด็จประภาสหัวเมืองมลายูว่า วัดสุวรรณคีรีวิหาร) จึงได้เริ่มหาสถานที่สร้างวัด โดยกำหนดเอาเนินสูงที่สุดในบริเวณนั้นเป็นที่สร้าง คำว่า อุปนันทาราม มาจากคำภาษาบาลี คือ อุป หมายถึง ที่ใกล้, เข้าไปใกล้, มั่น. นันท หมายถึง ยินดี, เพลิดเพลิน, รื่นเริง, บันเทิง, พอใจ, งดงาม. และ อาราม หมายถึง ความยินดี, ความพอใจ, สวน, อาราม, วัด. เมื่อนำมารวมกันอุปนันทารามจึงมีความหมายว่า "พระอารามที่มีความงดงามมั่นคงเป็นที่น่าพอใจ" เพราะสภาพที่ตั้งของวัดที่ตรงกลางเป็นเนินเขาเล็กๆล้อมรอบด้วยพื้นที่ราบที่ เป็นสวนธรรมชาติล้อมรอบด้วยย่านชุมชน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางการประมง เหมืองแร่ และค้าขายเป็นต้น วัดอุปนันทาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกกันอย่างง่ายๆอีกชื่อหนึ่งคือ "วัดด่าน" เพราะตั้งบริเวณบ้านท่าด่านเป็นพื้นที่ที่อยู่สุดเขตแดนติดต่อกับประเทศ สหภาพพม่า ซึ่งในอดีตมีลักษณะเป็นท่าด่านปากคลองสำหรับเรือสัญจรที่จะเข้าสู่เมือง ระนอง ทั้งเรือโดยสาร เรือขุดแร่ หรือเรือประมง เพราะในสมัยนั้นการสัญจรทางน้ำถือว่าสะดวกที่สุด การสร้างวัดในระยะแรกนั้นได้สร้างเป็น เรือนไม้ทรงปั้นหยาตามแบบศิลปะของภาคใต้ และได้อาราธนานิมนต์หลวงพ่อบรรณ พุทฺธสโร (ภายหลังได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่พระครูศีลพงษ์คณารักษ์ เจ้าอาวาสรูปแรก) ซึงเป็นพระธุดงค์มาจากจังหวัดไชยา(อำเภอไชยา สุราษฎร์ธานี)ให้ช่วยอยู่จำพรรษา ด้วยความเมตตาหลวงพ่อจึงรับนิมนต์และอยู่จนได้ก่อร่างสร้างวัดบูรณะพัฒนาวัด มาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๒ เขตวิสุงคามสีมากว้าง ๒ เส้น ๒ วา ยาว ๒ เส้น ๗ วา ได้รับคัดเลือกให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๐ และ พ.ศ. ๒๕๑๙ ได้ผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๐ วัดอุปนันทารามได้จัดระเบียบบริเวณวัดให้มีความสะอาด ร่มรื่น สวยงาม มีอาคารเสนาสนะที่มั่นคงเป็นระเบียบ จัดการปกครองพระภิกษุและสามเณรอย่างมีระเบียบ มีการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรม จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และเอื้อประโยชน์แก่ชุมชนจึงได้รับคัดเลือกเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงาน ดีเด่นประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๑ ความสำคัญ
วัดอุปนันทารามกับการศึกษาวัดอุปนันทารามได้จัดสอนหนังสือให้แก่ ประชาชนในพื้นที่ตั้งแต่แรกเริ่มโดยอาศัยศาลาเล็กๆภายในวัดกับผู้สนใจไม่กี่ คนโดยแรกเริ่มทำการสอนโดยหลวงพ่อบรรณเอง ต่อมาเมื่อคนเริ่มมาเรียนหนังสือเพิ่มมากขึ้นได้ขยายออกเป็นโรงเรียน ประชาบาลโดยมีครูผู้สอนทั้งฆราวาสและพระภิกษุสามเณร สำหรับพระภิกษุสามเณรที่เคยสอนนั้น เช่น ๑. สามเณรปั่น เสน่ห์เจริญ (พระพรหมมังคลาจารย์ ปัญญานันทะภิกขุหรือหลวงพ่อปัญญา) ๒. พระสงัด ๓. พระบุญเสริม ๔. พระสุพาสน์ เมื่อเริ่มมีนักเรียนมาเรียนมากขึ้นจึงตั้งโรงเรียนในที่ของวัดและโอนไป สังกัดกับเทศบาลเมืองระนอง ปัจจุบันมีชื่อว่า โรงเรียนเทศบาลวัดอุปนันทาราม ส่วนในส่วนของการศึกษาปริยัติธรรมของพระ ภิกษุสามเณรเองนั้นวัดได้เป็นสำนักศาสนศึกษามีการเรียนการสอน นักธรรม - บาลี เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และมีการสนับสนุนการศึกษาของพระภิกษุสามเณรที่สนใจใฝ่รู้อยู่ตลอด การบริหารและการปกครองวัดอุปนันทาราม จัดการปกครองภายในวัด โดยมีกติกาของวัด กำหนดให้พระภิกษุสามเณรปฏิบัติตามพระวินัยอย่างเคร่งครัด เพื่อให้หมู่คณะของพระสงฆ์อยู่กันอย่างเรียบร้อยเป็นที่น่าเลื่อมใส และเพื่อความเรียบร้อยของการบริหารและการปกครองโดยคำนึงถึงความคล่องตัว รวดเร็ว จึงได้แต่งตั้งผู้ช่วยเจ้าอาวาสไว้ช่วยงาน ๔ ด้าน คือ ด้านการปกครอง ด้านการศึกษา ด้านสาธารณูปการ และด้านการเผยแผ่ พร้อมทั้งเลขานุการเจ้าอาวาส เพื่อดำเนินนโยบายตามอำนาจและหน้าที่ของเจ้าอาวาส ![]() ![]() ![]() ![]() เจ้าอาวาสตั้งแต่แรกสร้างวัดจนถึงปัจจุบัน มีดังนี้
เสนาสนะภายในวัดอุปนันทารามมีเสนาสนะต่างๆเช่น
บุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับวัดอุปนันทารามวัดอุปนันทารามถือเป็นให้กำเนินดนักปราชญ์ นักพัฒนามาเป็นจำนวนไม่น้อย
อ้างอิง
|