เหรียญทองคำในหลวง ด้านหลัง ทรงเรือใบ ปี 2542 หนัก 3 กรัม
1 ใน ชุดเหรียญเบญจมหามงคล
พระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย คือ แรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้ผมใฝ่ฝันที่จะสร้างถาวรวัตถุเพื่อเทิดพระเกียรติ และพระบารมี
สำหรับ เหรียญเบญจมหามงคล ชุดนี้ คือ ความสำเร็จแห่งแรงบันดาลใจของผม ที่ต้องการสร้างเหรียญที่สวยงาม มีคุณค่าต่อการสะสม เนื่องจากเทคโนโลยีต่างๆ มีความทันสมัยมากขึ้น ประกอบกับผมมีมูลนิธิที่ตั้งไว้ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยการศึกษาแก่บุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต จึงได้ทำหนังสือถึงท่านราชเลขาธิการ ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตสร้างในนามมูลนิธิ พลตำรวจเอก สล้าง บุนนาค
ผมได้รับหนังสือจากท่านราชเลขาฯ ว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างได้ทั้ง 5 รูปแบบ
ที่ผมดีใจมากที่สุด คือ เหรียญพระพุทธเจ้าหลวง, เหรียญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, และ เหรียญสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นเหรียญไม่สวมฉลองพระองค์ (เหรียญเปลือย) ซึ่งเป็นศิลปะที่นิยมกันมากในหมู่พระราชวงศ์ตะวันตก ซึ่งสร้างครั้งสุดท้ายสมัย ร.5 และตลอดระยะเวลา 105 ปีเศษ ไม่เคยมีการสร้างเหรียญชนิดนี้
เหรียญชุดนี้จึงเป็นเหรียญชุดแรก ในรัชกาลปัจจุบัน
เมื่อผมได้รับพระบรมราชานุญาต จึงจำเป็นต้องนำประสบการณ์ทั้งหมดที่ได้ศึกษาดูงาน และนำความสัมพันธ์ที่มีอยู่กับศิลปินผู้มีชื่อเสียงทั้งใน และต่างประเทศ ที่ผมเห็นว่าต้องทำงานร่วมกัน เหรียญทั้งหมดผมได้ออกแบบ และแนวคิดต่างๆ ด้วยตัวเอง
และมอบหมายให้ ร.ต.อ.สุริยงค์ โพธิจันทร์ กราฟฟิกคอมพิวเตอร์ที่ทำงานอยู่กับผม สร้างรูปแบบ และให้ช่างปั้นตามรูปแบบที่เราทำไว้ให้ แต่ละเหรียญใช้ช่างปั้นอย่างน้อย 2-3 คน เมื่อคัดเลือกได้รูปแบบแล้ว ได้นำไปให้ Mr.Wemer Godec ช่างปั้น High Relief ที่มีชื่อเสียงของยุโรปแก้ไขสัดส่วน ส่วนนูน ส่วนเว้า เพื่อให้เกิดเงา และรายละเอียดที่สวยงาม
เมื่อได้รูปแบบที่พอใจแล้ว ได้ทำสัญญากับโรงงานว่า จะทำเหรียญแบบ Matt Finish ซึ่งเป็นกรรมวิธีการผลิตเหรียญที่ดีที่สุด
การผลิตวิธีนี้ เหรียญขนาด 32 มม. ลงมา จะปั๊ม 9 ครั้ง อบ 2 ครั้ง เมื่อตรวจสอบแล้วจากรุ่นตัวอย่าง โดยขยายขนาด 80 เท่า เปรียบเทียบกับเหรียญที่มีอยู่ โลหะยังอัดตัวไม่แน่นเท่ากับเหรียญ เก่าที่เก็บไว้ จึงได้ตกลงให้ปั๊มใหม่ 25 ครั้ง เมื่อเสร็จขั้นตอนนี้ เหรียญพื้นราบจะเงางามมาก ที่พวกเราเรียกว่า เหรียญ Poof แล้วจะต้องนำมาพ่นทรายละเอียด และทำ Patian ผิว พร้อมขัด
ขั้นตอนหลังจาก เหรียญ Poof แล้ว ทำด้วยมือทั้งหมด นอกจากกรรมวิธีการผลิตที่ประณีตแล้ว
เหรียญที่ระลึกเบญจมหามงคลได้ผ่านการทำพิธีมังคลาภิเษก 9 ครั้ง ณ วัดประจำรัชกาลที่ 1-8 และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) รวม 9 วัด
และได้ทำพิธีปลุกเสกเดี่ยว โดย หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
และพิธีกล่าวบวงสรวงวิญญาณของพระบูรพมหากษัตราธิราชเจ้า และดวงวิญญาณสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า พระราชวังดุสิต
กล่าวได้ว่า ไม่มีเหรียญที่ระลึกใด ที่ผ่านการประกอบพิธีมังคลาภิเษกขนาดนี้มาก่อน
เมื่อเหรียญนี้ชุดนี้เสร็จ ทางโรงงานได้นำไปเสนอต่อ พิพิธภัณฑ์เมืองเบอร์ลิน ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีอายุ 600 ปี แล พิพิธภัณฑ์เมืองเดสกัน
สำหรับเหรียญที่จะเข้าไปแสดงที่ พิพิธภัณฑ์เมืองเบอร์ลิน ได้ จะต้องได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการที่ผ่านยากมาก และจะได้ตั้งแสดงปีละ 4 เดือน หมุนเวียนกันไป
เครดิตจากเวบ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.355974047769585.89142.191918684175123&type=3
|